Sunday, 26 March 2023

ฟันฮิปโป กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนจากสัตว์ป่าที่นักลักลอบสนใจค้าแทนงาช้าง

ฟันฮิปโป นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ความจำกัดที่เคร่งครัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อการลักลอบค้างาช้างได้ส่งผลให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากเพิ่มขึ้น โดยบางทีก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียอย่างรุนแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” (vulnerable to extinction)

เวลาที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ องค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์ป่าได้ศึกษาความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ฟันฮิปโป ฮิปโปโปเตมัส

“พวกเราพบการค้าฟันฮิปโปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร”

ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้ แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน กันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปมากขึ้น ซึ่งจำนวนฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็เผชิญกับการคุกคามอยู่” รายงานเจาะจง

บรรดานักค้นคว้าบอกว่า ลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งทั่วทั้งโลกเห็นดีเห็นชอบร่วมกันสำหรับเพื่อการห้ามการค้างาช้างเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีความเข้มงวดขึ้น ด้วยเหตุว่ารัฐบาลต่างๆได้เอามาตรการใหม่ๆมาใช้ในลัษณะของการห้าม

เช่นเดียวกับงา ฟันและเขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้เพื่อการแกะสลักเพื่อนำไปเสริมแต่งตกแต่ง แม้กระนั้นของพวกนั้นราคาถูกกว่า และก็หามาครองได้ง่ายกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและก็พืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แม้กระนั้นการขายในเมืองนอกควรมีใบอนุญาตการส่งออก

นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ข้อกำหนดที่เคร่งครัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อการลักลอบค้างาช้างได้ก่อให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเยอะขึ้น โดยบางครั้งก็อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” (vulnerable to extinction)

ในเวลาที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ องค์กรการกุศลด้านความสะดวกสัตว์ป่าได้ศึกษาเล่าเรียนความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

“พวกเราเจอการค้าฟันฮิปโปมากยิ่งขึ้นในสหราชอาณาจักร ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้” แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน เดือนกันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานระบุ

ฟันฮิปโป งาช้าง

บรรดานักวิจัยระบุว่า รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989

ซึ่งทั้งโลกเห็นชอบด้วยกันในการห้ามการค้างาเป็นครั้งแรก แล้วก็มีความเข้มงวดขึ้น เพราะว่ารัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้สำหรับเพื่อการห้าม

เหมือนกันกับงาช้าง ฟันรวมทั้งเขี้ยวของฮิปโปมักถูกใช้เพื่อสำหรับการสลักเพื่อนำไปเสริมแต่งตกแต่ง แม้กระนั้นของพวกนั้นราคาถูกกว่า และหามาถือครองได้ง่ายยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปโปเตมัสยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าแล้วก็พืชป่าที่ใกล้จะสิ้นซาก (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แม้กระนั้นการขายในต่างประเทศควรมีใบอนุญาตการส่งออก

ชาติในแอฟริกากลางรวมทั้งตะวันตก 10 ชาตินี้จึงได้เสนอทางที่เรียกว่า “ข้อคิดเห็นประกอบ” ซึ่งจะนำมาซึ่งการทำให้มีการกำหนดโควตาเป็นศูนย์ในการค้าตัวอย่างสัตว์ป่าเพื่อเป้าหมายทางการค้า แต่ข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการผลักดันจากสหภาพยุโรป หรือจากชาติต่างๆในแอฟริกาใต้รวมทั้งทิศตะวันออก ซึ่งกล่าวว่า ปริมาณประชากรฮิปโปยังคงอยู่ในระดับที่ดี

บางประเทศในแอฟริกาใต้และก็ทิศตะวันออก ยกตัวอย่างเช่น แทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย รวมทั้งซิมบับเว ยังเป็นต้นเหตุของฮิปโปราว 3 ใน 4 จากจำนวน 13,909 ตัว ที่ถูกนำส่วนประกอบแล้วก็ผลิตภัณฑ์ต่างๆจากฮิปโปโปเตมัสเหล่านี้ไปขายระหว่างปี 2009-2018

โจอันนา สวาเบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโปรโมทของสัมพันธ์มนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ชี้ว่า เกือบจะไม่มีการทำงานอะไรก็ตามตั้งแต่ปี 2016 เพื่อรักษาจำนวนฮิปโป

“แทบจะไม่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับจำนวนประชากรที่จริงจริงของฮิปโปในประเทศต่างๆเหล่านี้เลย” เธอกล่าว

“ช่วงเวลาที่ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านี้รู้ดีว่า กำลังเกิดอะไรสังกัดฮิปโปภายในดินแดนของตนเอง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาไม่ควรนิ่งเฉย”

ฮิปโปมีอัตราการเกิดต่ำ โดยออกลูกเพียง 1 ตัวในแต่ละปี ฉะนั้นการมีจำนวนประชากรฮิปโปที่น้อยลงอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้

ฮิปโป

ฟันฮิปโป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮิปโป

ฮิปโปโปเตมัสทุกตัวอาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยมี 2 ประเภทคือ ฮิปโปโปเตมัสธรรมดา (common hippo) ซึ่งคาดว่า มีประชากรราว 115,000-130,000 ในปี 2016 แล้วก็ฮิปโปโปเตมัสแคระ (pygmy hippo) ซึ่งมีประชากรราว 2,000-3,000 ตัว

ฮิปโปธรรมดาจัดอยู่ในประเภท “มีแนวโน้มใกล้สิ้นพันธุ์” ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติในปี 2016

มีการค้าส่วนประกอบแล้วก็ผลิตภัณฑ์ต่างๆของฮิปโปโปเตมัส 13,909 ตัว อย่างถูกกฎหมาย ระหว่างปี 2009-2018 โดย 3 ใน 4 ของฮิปโปเหล่านี้มีต้นกำเนิดอยู่ในแทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย แล้วก็ซิมบับเว

มีการค้าฟันฮิปโปอย่างถูกต้องตามกฎหมายน้ำหนักรวม 770,000 กก. ระหว่างปี 1975-2017 แต่ว่าไม่ทราบปริมาณการค้าอย่างไม่ถูกกฎหมาย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่ากล่าวเพราะ ควรต้องเฝ้ามองการค้าฟันฮิปโปทั้งๆที่ถูกตามกฎหมายแล้วก็ผิดกฎหมายอย่างสนิทสนม

ฮิปโปโปเตมัสธรรมดาถูกขึ้นบัญชีในภาคผนวกที่ 2 ของไซเตส ซึ่งหมายความว่า บางทีอาจจะสิ้นซากได้ ถ้าเกิดไม่มีการควบคุมการค้าอย่างครัดเคร่ง

10 ประเทศดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งกำลังพยายามให้มีการห้ามการค้าฟันฮิปโปทั่วทั้งโลก กล่าวว่า มีหลักฐานที่เด่นชัดว่า “มีการปนเปกันระหว่างฟันฮิปโปไม่ถูกกฎหมายและถูกตามกฎหมาย” ทำให้ฟันฮิปโปที่ถูกลักลอบล่า “ถูกนำไปฟอกเพื่อนำไปขายในตลาดถูกตามกฎหมาย”

หากไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น นักเคลื่อนไหวเตือนว่า ฮิปโปโปเตมัสอาจจะมีโชคชะตาเช่นเดียวกับช้าง ซึ่งกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สิ้นซาก (endangered) หรือใกล้สิ้นพันธุ์อย่างยิ่ง (critically endangered) ในกรณีของช้างป่าแอฟริกา เพราะเหตุว่าผู้ลักลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าช้างป่าเหล่านี้จำนวนมากเพื่อเอางาของพวกมัน

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC